ประวัติ ของ วิกตอร์ ลินเดเลิฟ

เมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2015 เขาต้องเจอกับความคาดหวังตอนก้าวเข้าไปยิงจุดโทษสำหรับศึกชิงแชมป์ยุโรป รุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี รอบชิงชนะเลิศกับทีมชาติโปรตุเกส ประเทศที่เขาได้สร้างชื่อกับไบฟีกา

จังหวะก่อนหน้านั้น อับดุล คาลิลี เป็นเพชฌฆาตให้กับทีมชาติสวีเดนแต่ยิงไม่เข้าเป้าในการแข่งขันที่เอเดนอารีนา เมืองปราก และฌูเอา มารียู ก็กดตุงตาข่ายทำให้สกอร์ขยับมาเป็น 3-3 ด้วยความนิ่งของลินเดเลิฟ เขายิงผ่านมือฌูแซ ซา โดยความล้มเหลวจากระยะ 12 หลาของวิลเลียม คาร์วัลโยในจังหวะถัดมา ทำให้สวีเดนเถลิงคว้าแชมป์รายการระดับชาติได้เป็นครั้งแรก

ณ เวลานั้น ลินเดเลิฟเพิ่งจะมีชื่อติดขุมกำลังโดยถูกเรียกมาเสริมแต่แสดงผลงานในตำแหน่งแบ็คขวาได้อย่างไร้ที่ติจนมีชื่อติดทีมยอดเยี่ยมประจำรายการของยูฟ่า สิ่งดังกล่าวถือเป็นแรงกระตุ้นสำหรับเส้นทางอาชีพค้าแข้งในระดับสโมสร ซึ่งเขาก้าวเข้าไปติดทีมชุดใหญ่ของไบฟีกาและได้สัมผัสกับประสบการณ์การแข่งขันลีกสูงสุด เช่นเดียวกับแชมเปียนส์ลีก

ความอดทนถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับดาวเตะจากสแกนดิเนเวีย เขาก้าวไปติดทีมชุดใหญ่ของวาสเตราสด้วยวัยเพียง 16 ปี ลินเดเลิฟช่วยให้ทีมท้องถิ่นเลื่อนชั้นขึ้นไปได้ แต่ต้องโบกมือลาเมื่อไบฟีกาเข้ามาทาบทามในปี 2012 ยักษ์ใหญ่เมืองลิสบอนมองเห็นศักยภาพในตัวดาวเตะทีมชาติสวีเดน ชุดอายุไม่เกิน 16 และ 17 ปี จึงตัดสินใจคว้าตัวไปร่วมทีมทันที

กับวัยเพียง 17 ปี ลินเดเลิฟเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าเขาต้องรอโอกาสและทำงานหนักกับทีมชุดบี โดยได้ลงสนามไป 40 นัดในการแข่งขันลีกรองของประเทศโปรตุเกส พร้อมประจำการในตำแหน่งแบ็กขวา การขยับเข้าไปยืนเป็นเซ็นเตอร์ยืนยันเรื่องการเติบโตของเขา ซึ่งก็สร้างผลงานที่น่าประทับใจเช่นเดียวกับในบทบาทกองกลางตัวพักบอลด้วย

เมื่อปี 2016 เพิ่งจะมีการหารือเรื่องการย้ายไปค้าแข้งให้กับสโมสรฟุตบอลมิดเดิลส์เบรอด้วยสัญญายืมตัว แต่เขากลับกลายเป็นผู้เล่นคนสำคัญให้กับแนวรับของไบฟีกาและต่อสู้แย่งตำแหน่งตัวจริงมาครองได้สำเร็จ ในการให้สัมภาษณ์อย่างมั่นใจ เขาประกาศถึงเจตนาที่จะเอาชนะรุ่นพี่ที่มีประสบการณ์มากกว่า และสิ่งดังกล่าวก็ได้รับการพิสูจน์ให้เห็นเมื่อเขาสร้างชื่อกลายเป็นกองหลังที่น่าจับตามองอันดับต้น ๆ ของยุโรป

การติดทีมชาติชุดใหญ่กับสวีเดนเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นตามมาอย่างปกติ และหลังจากลงเป็นตัวจริงในสามนัดสำหรับการแข่งขันยูโร 2016 เขาได้ทำประตูแรกในเกมพบทีมชาติบัลแกเรียเมื่อเดือนตุลาคม ปี 2016 แม้ว่าหน้าที่หลักของลินเดเลิฟคือการเล่นเกมรับ แต่เจ้าตัวได้โชว์ทีเด็ดยิงฟรีคิกสุดสวยผ่านมือรุย ปาตรีซียู ช่วยให้ต้นสังกัดตามตีเสมอสปอร์ติงลิสบอน 1-1

การคว้าถ้วยรางวัลกลายเป็นบางสิ่งที่เกิดขึ้นจนเป็นกิจวัตรของปราการหลังชาวสวีเดน โดยเขาฟาดแชมป์ลีก 3 สมัย, บวกโปรตุเกสคัพ 2 สมัยและยูฟ่าซูเปอร์คัพอีก1 สมัย นี่เรายังไม่ได้กล่าวถึงเหรียญแชมป์จากรายการฟุตบอลชิงแชมป์ยุโรป รุ่นอายุไม่เกิน 21 ปีด้วย

ตอนนี้ ปราการหลังจอมนิ่งต้องโฟกัสปรับตัวเรื่องการใช้ชีวิตกับสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด หลังจากที่เซ็นสัญญาสี่ปี พร้อมตัวเลือกขยายเพิ่มอีกหนึ่งฤดูกาล เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2017 การเสริมทัพคนแรกในซัมเมอร์แรกของโชเซ มูรีนโยคือเอริก บายี หากลินเดเลิฟสามารถโชว์ฟอร์มได้เหมือนกับดาวเตะฟุตบอลทีมชาติโกตดิวัวร์ในปีแรกที่แมนเชสเตอร์ แน่นอนว่าทุกคนคงจะมีความสุข